วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การอนุรักษ์ปะการัง


การอนุรักษ์ปะการังมีการดำเนินการดังนี้คือ
     1.  ทำการกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ในแนวปะการัง  พร้อมทั้งจัดทำแผนที่รายละเอียดแสดงบริเวณปะการัง  ซึ่งแบ่งเป็น 4 เขต  ได้แก่  เขตการดูแลของท้องถิ่น  เขตการใช้ประโยชน์เพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ  เขตอนุรักษ์เพื่อความสมดุลของระบบนิเวศ และการวิจัย  โดยกำหนดมาตรการในการบริหารการจัดการปะการังในแต่ละเขต  เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์และควบคุมการดำเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับมาตรการที่กำหนดไว้
   2.  ติดตั้งทุ่นผูกเรือในเขตการใช้ประโยชน์ในแนวปะการังที่มีความสำคัญสูง  สำหรับให้จอดเรือ  โดยไม่ให้ทิ้งสมอ
   3.  ห้ามการจับปลาทุกประเภทในบางบริเวณเพื่อให้มีปลาเข้ามาหลบในบริเวณนั้นมากขึ้น
   4.  นำเรือท้องกระจกเพื่อให้ดูปะการัง
   5.  ประชาสัมพันธ์ให้มีการตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรปะการัง  โดยให้มีการศึกษาและเผยแพร่ความรู้และคุณค่าของปะการังให้กับบุคคลทุกประเภท  ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ  ในการป้องกันและฟื้นฟูปะการัง
   6.  ส่งเสริมให้กลุ่มชุมชน  องค์กรเอกชนสมาคมหรือชมรมการท่องเที่ยว  ร่วมกันจัดกิจกรรมในเรื่องการรักษาความสะอาด  เพื่อการคุ้มครองปะการัง


 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน  ทั้งในด้านการนำมาใช้ประโยชน์และการสงวนรักษา  ทรัพยากรธรรมชาติประกอบด้วยเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย  ซึ่งในแต่ละเรื่องก็มีปัญหาที่ยุ่งยาก  ซับซ้อน  การพัฒนาประเทศในระยะที่ผ่านมาช่วง 30 ปี  ประสบกับปัญหาการจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ  อันเนื่องมาจากเหตุผลหลายประการ  ได้แก่  การเพิ่มจำนวนประชากรการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว  การเร่งรัดพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรม  ตลอดจนการนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้ในการผลิต  ซึ่งส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์กลับอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรม  จนกลายเป็นข้อจำกัดของการพัฒนาในระยะต่อไป  ดังปรากฎเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า  ทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์อยู่ทุกวัน  นับวันจะร่อยหรอหมดสิ้นไปและอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมลงเรื่อย ๆ รวมทั้งยังมีปัญหาข้อขัดแย้งในการใช้ประโยชน์อีกด้วย
สำหรับปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังทวีความรุนแรงอย่างยิ่ง คือ ความเสื่อมโทรมของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ  อันเนื่องมาจากการใช้กันอย่างเกินขอบเขตและการใช้อย่างไม่เหมาะสมจนสภาพทางธรรมชาติไม่สามารถรองรับหรือปรับตัวให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้

 ปัจจุบันเป็นที่เข้าใจอย่างชัดแจ้งแล้วว่า  การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฉลาดนั้น  จะต้องคำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ ในเวลาเดียวกันด้วย  เพราะการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติชนิดหนึ่ง  อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งได้ และเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน หรือเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน  จึงจำเป็นจะต้องมีการบริหารการจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจากการพัฒนาจะต้องพึ่งทรัพยากรและทรัพยากรก็เป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งแวดล้อม  การพัฒนาและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ  จึงควรอยู่บนรากฐานของความถูกต้องและเหมาะสมตามหลักวิชาการ  โดยคำนึงถึงสภาพที่สมดุลหรือขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ และโดยที่ปัจจุบัน  ปัญหาอันเกิดจากการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ได้เป็นปัญหาที่สำคัญและเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง  ซึ่งจำเป็นจะต้องดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหา  ตลอดจนควบคุมและส่งเสริมให้การกระทำใด ๆ มีผลกระทบในทางเสียหายน้อยที่สุด  จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญรวมทั้งการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

ทั้งนี้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ  จะต้องคำนึงถึงความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต  ตลอดจนสถานภาพของทรัพยากรด้วย  เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติให้คุ้มค่ามากที่สุด  ประหยัดที่สุด  สูญเสียน้อยที่สุด และใช้ได้อย่างต่อเนื่อง  การพัฒนาที่ยั่งยืนจึงเป็นการนำขบวนการอนุรักษ์และพัฒนามาผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อให้การจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด  ได้เอื้ออำนวยประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้มากที่สุดและมีผลต่อเนื่องต่อไป หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ต้องหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด  เพื่อให้การอนุรักษ์และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ  สามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้อย่างยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น